วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

ที่สุดแห่งความสุข ฮาร์ดร็อก พัทยา (Hard Rock Hotel Pattaya) โฉมใหม่ ที่พักพัทยา

ที่สุดแห่งความสุข ฮาร์ดร็อก พัทยา (Hard Rock Hotel Pattaya) โฉมใหม่ ที่พักพัทยา

ในวันเดินทางพวกเราเดินทางไปรวมกันกันที่จุดพบตรงเวลาเป๊ะเว่อร์ แล้วออกเดินทางสู่พัทยา โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงพัทยากลาง ที่ตั้งของ โรงแรมฮาร์ดร็อก พัทยา (Hard Rock Hotel Pattaya) ที่ใครเห็นก็ต้องสะดุดตากับสีสันอันสดใส เอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮาร์ดร็อก

พอเข้าไปถึงล็อบบี้โรงแรม ก็มีโซฟาขนาดใหญ่ม๊าก ให้เรานั่งเล่นชิลล์ๆ และในระหว่างรอเช็คอิน พนักงานโรงแรมแสนน่ารัก ก็ต้อนรับพวกเราด้วยผ้าเย็น ที่มีกลิ่นตะไคร้หอม มาช่วยเรียกความสดชื่น ต่อด้วยเวลคัมดริ้งค์ น้ำใบเตยและน้ำตะไคร้ที่หวานเย็นชื่นใจ พอหันไปมองรอบๆ ก็สะดุดตากับบรรยากาศบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ที่ตกแต่งด้วยกีต้าร์ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่ รวมไปถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนหุ่นที่ถูกจัดวางในตู้รอบ ๆ บริเวณ ก็เป็นเสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดงจริงๆ ของนักร้องชื่อดังระดับโลกอย่าง Whitney Houston, Elton john และศิลปินดังๆ อีกมากมาย

หลังจากชมบรรยากาศเก๋ๆ บริเวณล็อบบี้สักครู่เราก็ได้รับคียร์การ์ดจากพนักงานสุดน่ารัก ให้ทุกคนได้ขึ้นไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (ก่อนจะไปดูคอนเสิร์ตฟองเบียร์ตอนเย็นๆ)  ว่าแล้วก็ไปดูบรรยากาศห้องกันดีกว่า ขอบอกว่า ชอบสไตล์การตกแต่งห้องฉบับปรับปรุงใหม่ของที่มากม๊าก พอประตูลิฟท์เปิดออกมา เราก็จะเจอทางเดินกว้างขวาง และมีการออกแบบกำแพงแต่ละชั้นให้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน

 

ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป เราก็ได้สัมผัสกับความเย็นฉ่ำของแอร์ที่ทางโรงแรมได้มาเปิดรอไว้แล้ว ว้าวๆ สบายจริงๆ เลย

 

ครั้งนี้ได้พักห้องแบบเตียงคู่ ที่นอกจากเตียงนุ่มน่านอนแล้ว ในห้องยังมีการจัดไฟแบบเท่ห์ๆ มีสไตล์ และมีทีวี LCD ให้ดูทุกห้อง

 นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของห้องพักแบบเตียงคู่ ที่ดูโอโถ่ง ขว้างขวาง  นั่งเล่น นอนเล่นได้อย่างสบายมว๊ากๆๆๆ แถมยังมีเครื่องเสียงเครื่องเล็ก ๆ ยี่ห้อดัง ที่สามารถเอาไอโฟนเสียบ หรือถ้ามีทรัมไดร์ ก็สามารถเสียบเล่นเพลง จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในห้องกันได้เลยเชียว เก๋ไม่หยอกนะ

 

มีขนม กาแฟ ชา ให้บริการด้วย

 

ในตู้เย็นก็มีเครื่องดื่มให้บริการด้วย เยอะมาก เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

 ห้องน้ำเน้นสีขาว เทา ดำ เท่ห์อย่าบอกใคร แชมพูกับสบู่ที่นี่ใช้ของ Rock Spa ซึ่งเป็น สปาของโรงแรม หอมมาก

มีบรรยากาศสระว่ายน้ำมาให้ชม มีทั้งแบบกลางวันและกลางคืนเลย แต่ที่เด็ดสุดคือปาร์ตี้โฟมของที่นี่ เสียค่าเข้าแค่ 200 บาท (ได้เครื่องดื่ม 1 แก้ว) เข้าสำหรับผู้ที่พักที่ โรงแรมฮาร์ดร็อก พัทยา (Hard Rock Hotel Pattaya) ส่วนจะสนุกสนานแค่ไหน ใครมีโอกาสได้ไปแนะนำให้ลองไปเล่นดูน่ะ ไม่รู้ว่าใช้อะไรทำโฟม แต่รับรองว่าไม่เป็นอันตรายกับคนเล่นแน่นอนจ้า

ตื่นเช้ามา ก็แวะไปกินอาหารเช้าแบบจุใจ มีให้เลือกละลานตา แต่ละเมนูหน้าตาน่ากินเป็นที่สุด

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โรงแรมฮาร์ดร็อคพัทยา

ที่ตั้ง: 429 ม.9 ถนนเลียบชายหาดพัทยา ชลบุรี 20150

โทร. 038 428755-9 หรือ www.pattaya.hardrockhotels.net

ที่มา >>> Sanook Travel 

ตลาดนาเกลือ ที่เที่ยวพัทยา

ตลาดนาเกลือ ที่เที่ยวพัทยา

     
ตลาดสดเก่าแก่แห่งเมืองพัทยา อายุเกินกว่า 50 ปี และยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ด้วย ขายของทุกวันและทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 6 โมงเย็น สินค้ามีทั้งอาหารทะเลสด ๆ หลากหลายชนิด รวมถึงของหายากก็มีให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ ทั้งปลาอินทรีย์ ปลากระเบน ปลาโรนัน ปลาหน้าวัว ปลาฉลาม ปลาลิ้นหมา ปลาเห็ดโคน หมึกยักษ์ หมึกสาย หอยโจงโดง ปูม้า ปูทะเล กุ้งแชบ๊วย ไข่ปลาเรียวเซียว แมงกะพรุน เป็นต้น  อาหารสดนำเข้าจากเรือประมงแถวสะพานปลานาเกลือบางเสร่ ศรีราชา และสัตหีบ  ส่วนผักสด ผลไม้และอาหารทะเลแห้งก็มีขายเช่นกัน
ที่ตั้ง :  เมืองพัทยา

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ร้าน coffee brown sugar ที่กินพัทยา

ร้าน coffee brown sugar ที่กินพัทยา
ร้าน coffee brown sugar การเดินทาง มาจากกรุงเทพ ขับรถมาเรื่อย ๆ ถึงสี่แยกไฟเขียวไฟแดงโรงเรียนชลชาย(ด้านซ้ายจะเป็นโชว์รูมโตโยต้าไทยยนต์) ให้เลี้ยวขวา ขับรถตรงไปอีก จะเจออีกไฟเขียวไฟแดง ให้เลี้ยวซ้าย ขับต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 50 เมตร เจอโรงเรียนชลพินิจ แล้วมีทางยูเทิร์น ให้ยูเทิร์น ร้านนี้จะอยู่ติดกับ บริษัท tisco สังเกตง่ายมาก เมนูเด็ด กาแฟ กับวาฟเฟิ่ล ทำเอง อร่อย และ สดใหม่ ทุกวัน

ตลาดหนองมน ที่เที่ยวพัทยา

ตลาดหนองมน ที่เที่ยวพัทยา

ตลาดของฝากจากทะเลยอดนิยม ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ตลาดหนองมนจะคึกคักกระทั่งทำให้ ถ.สุขุมวิทช่วงที่ผ่านย่านตลาดการจราจรติดขัด ด้วยเป็นตลาดของฝากของกินจากชายทะเลมาเนิ่นนาน มีเจ้าของสูตรของกินอร่อยขึ้นชื่อเป็นที่รู้จักกันอยู่มากมาย ที่ตั้ง ริม ถ.สุขุมวิท ต.แสนสุข ห่างจากตัวเมืองชลประมาณ 11 กม. การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว : ออกจากย่านตัวเมืองชลไปตาม ถ.สุขุมวิท เลยทางแยกเข้าบางแสนไปประมาณ 500 ม. ถึงย่านตลาดหนองมน จอดรถได้ทั้งสองฝั่งถนน รถประจำทาง : ขึ้นรถสายกรุงเทพฯ-ศรีราชา กรุงเทพฯ-พัทยา หรือสายชลบุรี-บางแสน สิ่งที่น่าสนใจ ย่านตลาดหนองมนอยู่ริม ถ.สุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีร้านค้าเรียงรายต่อเนื่องกันหลายร้อยเมตร เป็นศูนย์รวมของฝากจากชายทะเล ทั้งของสด ของแห้ง อาหารทะเลปรุงสำเร็จ รวมถึงของกินเล่นและขนม แต่ละเจ้านับว่าอร่อยขึ้นชื่อทั้งนั้น แทบทุกเจ้ามีป้ายการันตีความอร่อย ทั้งเชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ เดลินิวส์ ไทยรัฐ ทีวีช่องต่างๆ นอกจากร้านริมถนนแล้ว ตรงเชิงสะพานคนข้ามถนนเป็นตลาดสดซึ่งมีร้านเก่าแก่ที่คนเมืองชลมาเลือกซื้อมากกว่าร้านริมถนน ของกินของฝากในตลาดเด่นๆ คือ ห่อหมกเจ้าดั้งเดิม ปูม้าเป็นๆ และหอยทะเลสด
        สำหรับของกินที่นักท่องเที่ยวนิยมเลือกซื้อเป็นของฝาก ก็เช่น ข้าวหลาม ห่อหมก แจงลอน ฮ่อยจ๊อ ปูดอง หอยดอง ปลาหมึกบดหวาน หอยเสียบ กุ้งแห้ง ปลาเค็ม น้ำปลา เผือกฉาบ กล้วยฉาบ กล้วยกวน กะละแม ฯลฯ

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

ร้านสันโตสะ บ้านบึง-แกลง ที่กินพัทยา

ร้านสันโตสะ บ้านบึง-แกลง ที่เที่ยวพัทยา

    ร้านสันโตสะ เป็น ร้านกาแฟเปิดใหม่ ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสายบ้านบึง-แกลง ในเขตบริเวณศูนย์อาหารของฝากอิ่มท้อง2 ภายในร้านเป็นผลงานการออกแบบตกแต่งกันเอง โดยเจ้าของร้าน เป็นแบบสไล์ปูนเปลือย และไม้ อย่างสวยงาม เมนูในร้านมีขายเบเกอรี่ และในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีอาหารจานง่ายๆ เช่นสลัด แซนด์วิช ขนมปังอาหารเช้า ไว้ให้บริการอีกด้วย ที่นี่พิเศษมีห้องอาบน้ำนักปั่นจักรยานไว้ ให้บริการด้วย เพราะบริเวณนี้ มีนักปั่นทั้งถนน และเสือภูเขาค่อยข้างเยอะ นอกจากนี้เจ้าของร้านสันโตสะ ก็ชอบปั่นจักรยานด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องราคาของร้านนี้ ก็ไม่แพงมากสุดไม่เกิน 60 บาทเท่านั้นเอง ลูกค้าคนไหนที่เป็นคอกาแฟและชอบปั่นจักรยาน ด้วยแล้ว เชิญแวะไปนั่งพัก นั่งคุยกันได้ตามประสาคนคอเดียวกันครับ รับรองเจ้าของร้านบริการอย่างเต็มที่แน่นอน… ที่มา:chonburicafe.com

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

เกาะลอยศรีราชา ที่เที่ยวพัทยา

 

เกาะลอยศรีราชา ที่เที่ยวพัทยา



เกาะลอยเป็นเกาะเล็กๆใกล้ชายทะเลศรีราชาโดยมีสะพานเชื่อมกับชายฝั่ง บนเกาะมีสวนสาธารณะและสวนเต่าทะเล บรรยากาศร่มรื่น ทิศใต้ของเกาะมีเนินเขาเล็กๆ เป็นจุดชมวิว และเกาะลอยยังเป็นท่าเรือข้ามไปเกาะสีชัง ตำบลเกาะลอยเดิมเป็นพื้นที่ในตำบลเกาะลอยเป็นดอนบริเวณล้อมรอบเป็นที่ลุ่ม ลักษณะจึงดูเหมือนเกาะ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อตำบลเกาะลอย เป็นเกาะเล็กๆใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมีสะพานคอนกรีตเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะลอย รถเข้าถึงเกาะได้โดยสะดวก มีเนื้อที่ราว 3 ไร่เศษห่างจากชายฝั่งของอำเภอศรีราชาประมาณ 300 เมตรบนเกาะมีสวนสาธารณะและสวนเต่าทะเล มีบันไดทางเดินขึ้นไปยังวัดที่อยู่บนยอดเขา ในอดีตนั้นจะมีสะพานไม้เชื่อมตัวเกาะกับชายฝั่ง สามารถชมภาพบรรยากาศเก่าๆได้ตามร้านถ่ายรูปบางแห่งของศรีราชา ปัจจุบันสะพานไม้ดังกล่าวได้รื้อทิ้งไปแล้วและได้สร้างถนนคอนกรีตแทน สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะนั้นประกอบด้วยวิหารหลวงพ่อผิวหรือพระครูปริยัติวราทร อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีมหาราชา ซึ่งทุกวันจะมีพุทธศาสนิกชนมานมัสการกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็มีสวนเต่าตนุที่บรรดาผู้ปกครองนิยมนำบุตรหลานมาให้อาหารเต่ากัน ส่วนทางเดินรอบเกาะก็เป็นที่นิยมของบรรดานักตกปลาม ที่อยู่ : ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล ต.ศรีราชา ทางทิศเหนือของตลาดศรีราชา (ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 25 กม. แยกขวาจากถนนสุขุมวิท กม.ที่ 118 เข้าไปประมาณ 2 กม.)   ที่มา : chonburicafe.com   ดูที่เที่ยวเพิ่มเติมได้ที่>>> Sanook Travel

ช่องแสมสาร แหล่งท่องเที่ยวพัทยา

ช่องแสมสาร แหล่งท่องเที่ยวพัทยา

 

 ปลายแหลมแสมสารที่อยู่ใต้สุดของ อ.สัตหีบ มีหมู่เกาะแสมสารซึ่งประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย จำนวนเก้าเกาะตั้งอยู่เรียงราย โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินตรงปลายแหลมแสมสารเพียง 300 ม. จึงเกิดเป็นช่องทางเล็กๆ ที่เรือผ่านเข้าออกได้ เรียกว่า “ช่องแสมสาร” และเนื่องจากมีเกาะมากมายอยู่ใกล้ฝั่งช่วยป้องกันคลื่นลมจากทะเลลึก บริเวณช่องแสมสารจึงเป็นทำเลที่ดีสำหรับชาวประมงที่อาศัยท้องทะเลเป็นแหล่งทำมาหากิน มีการตั้งบ้านเรือนในบริเวณนี้จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ ส่วนพื้นที่บนเกาะทั้งหมดปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ของทหารเรือ ไม่มีชุมชนอยู่อาศัย ธรรมชาติทั้งบนเกาะและรอบเกาะจึงมีความอุดมสมบูรณ์ แต่จะอนุญาตให้ขึ้นเกาะได้ในช่วงกลางวันเพียงบางจุดเท่านั้น นอกจากนี้หมู่เกาะนี้ยังเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่นิยมตกปลาอีกด้วย ที่ตั้ง : บ้านแสมสาร ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ห่างจากตัวเมืองสัตหีบประมาณ 14 กิโลเมตร การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว จากแยกเข้าตัวเมืองสัตหีบ ใช้ ถ.สุขุมวิท ไปทางจังหวัดระยองประมาณ 6 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3126 ไปทางจุกเสม็ดประมาณ 2 กม. พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปราว 300 ม. พบทางแยกซ้ายมือให้เลี้ยวเข้าไปจนสุดเส้นทางที่ชุมชนแสมสาร มีท่าเรือเขาหมาจอเป็นจุดลงเรือไปเที่ยวหมู่เกาะ รถประจำทาง         ขึ้นรถสายสัตหีบ-ช่องแสมสาร สิ่งที่น่าสนใจ วิหารหลวงพ่อดำ เมื่อถึงชุมชนแสมสารจะมีป้ายบอกทางไปวิหารหลวงพ่อดำทางด้านซ้าย ถนนขึ้นเขาเล็กน้อย วิหารหลวงพ่อดำเป็นอาคารหลังคาจัตุรมุข ผนังด้านนอกวิหารทั้งสี่ด้านเป็นประติมากรรมปูนปั้นนูนสูงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่สวยงามมาก ภายในวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวแสมสารเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ปิดทองคำเปลวจนสุกอร่ามทั้งองค์ ผนังภายในวิหารมีงานจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม มีวิธีการสร้างสรรค์งานที่อาจไม่พบที่ใด คือการลงสีพื้นเป็นตารางหมากรุกโทนสีหวานสดใสและตัดเส้นถมพื้นด้วยสีดำ เขียนภาพเป็นเรื่องราวของพระพุทธเจ้า เทคนิคการลงสีเช่นนี้ทำให้ดูราวกับสีเหลือบของเปลือกหอยมุข ด้านหลังวิหารหลวงพ่อดำมีลานชมทิวทัศน์ที่มองเห็นช่องแสมสารซึ่งอยู่ระหว่างแผ่นดินและเกาะแรดได้ถนัด โดยการเห็นเกาะแสมสารเป็นเกาะอยู่ถัดไป ชุมชนแสมสาร สุดทางหลวงหมายเลข 3126 เป็นชุมชนชาวประมงติดทะเลที่อยู่กันหนาแน่น มีสะพานปลาจำนวนมาก ในช่วงเช้าตรู่ตามสะพานปลาทุกแห่งจะคึกคัก มีเรือปะมงเข้าเทียบท่านำอาหารทะเลสดขึ้นฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการ จะได้อาหารทะเลที่ทั้งสดใหม่และราคาถูก นอกจากชาวประมงพื้นถิ่น ยังมีชาวเขมร ลาว และพม่า จำนวนมากมารับจ้างทำงานประมง หมู่เกาะแสมสาร มีเกาะเล็กเกาะน้อยหลายเกาะ เกาะแรดอยู่ใกล้ฝั่งที่สุด ห่างจากแหลมแสมสารเพียง 300 ม. เกาะแสมสารมีขนาดใหญ่สุด ยาว 4.5 กม. และกว้าง 1.5 กม. เกาะจานอยู่ไกลสุด ส่วนเกาะอื่นๆ ก็มี เกาะจวง เกาะโรงหนัง เกาะโรงโขน เกาะฉางเกลือ เกาะปลาหมึก และเกาะขาม เกาะขาม เป็นเกาะเดียวในหมู่เกาะแสมสารที่อนุญาตให้ขึ้นเที่ยวได้ โดยอยู่ในความดูแลของทหารเรือ เกาะขามมีหาดทรายขาวกว้าง มีปะการังน้ำตื้นที่สวยงามมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นอุทยานใกล้ทะเล เปิดให้เที่ยวในช่วงเดือน ก.ย. – เม.ย. ส่วนช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. ของทุกปี จะปิดเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว อนุญาตให้ขึ้นเกาะได้เฉพาะช่วงกลางวัน มีเรือออกไปเกาะขามทุกวัน ลงเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ ไป-กลับ 200 บาท (ค่าเรือรวมค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะแล้ว) ติดต่อสอบถามที่กองกิจการพลเรือน กองเรือป้องกันฝั่ง ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า โทร 0-3843-2170, 08-9936-9409 ส่วนเกาะแสมสารซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์สมุนไพร และเกาะจานซึ่งเป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเลนั้น ห้ามขึ้นเด็ดขาด สำหรับเกาะอื่นๆอนุโลมให้ขึ้นเล่นน้ำบนชายหาดได้ในบางจุดช่วงเวลากลางวัน ซึ่งคนขับเรือในแสมสารจะรู้ดี

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

ตลาดเก่าอ่างศิลา แหล่งท่องเที่ยวพัทยา

ตลาดเก่าอ่างศิลา แหล่งท่องเที่ยวพัทยา

  เริ่มเปิดตลาด 1 พฤษภาคม 2552  อ่างศิลาในปัจจุบัน คนพื้นที่ดั้งเดิมเรียกกันว่า อ่างหิน สมัยรัชกาลที่ 3 ชาวตะวันตกและคนบางกอก มาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น โดยมีหลักฐานบันทึกถึงชื่อ อ่างศิลา ดังนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา อ่างศิลา ตอนหนึ่งว่า เรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรี อยู่ 2 แห่งๆหนึ่งลึก 7 ศอก กว้าง 7 ศอก ยาว 10 วา แห่งหนึ่งลึก 6 ศอก กว้าง 1 วา 2 ศอก ยาว 7 วา เป็นที่ขังน้ำฝน น้ำฝนไม่รั่วซึมไปได้ ท่านเจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบตี เห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนทั้งปวงจึงให้หลวงฤทธิ์ศักดิ์ชลเขตร ปลัดเมืองชลบุรี เป็นนายงานก่อเสริมปากบ่อกั้นน้ำ มิให้น้ำที่โสโครกกลับลงไปในบ่อได้ ราษฎร ชาวบ้านและชาวเรือไปมาได้อาศัยใช้น้ำฝนในอ่างศิลานั้น บางปีถ้าฝนตกมาก ถ้าใช้น้ำแต่ลำพังชาวบ้านก็ได้ใช้น้ำทั้งสองแห่งและบ่ออื่นๆ บ้างพอตลอดปีไปได้ บางปีฝนน้อย ราษฎรได้อาศัยใช้แต่เพียง 5 เดือน 6 เดือน ก็พอหมดน้ำในอ่างศิลา แต่น้ำในบ่อแห่งอื่นๆ ที่ราษฎรขุดขังน้ำฝนไว้ใช้นั้น มีอยู่หลายแห่งหลายตำบล ถึงน้ำในอ่างศิลา สองตำบลนี้แห้งไปหมดแล้วราษฎรก็ใช้น้ำบ่อแห่งอื่นๆ ได้จึงได้เรียกว่า บ้านอ่างศิลา มาจนถึงทุกวันนี้ อ่างศิลาเป็นหมู่บ้านประมงริมทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่ และเป็นแหล่งทำครกหิน  ซึ่งริเริ่มโดยชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งอพยพเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้นำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่มากมายแถบอ่างศิลามาแกะสลัก จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าของใช้ ของตกแต่งบ้าน มากมาย  นอกจากนี้อ่างศิลายังเคยเป็นสถานตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีตำหนักที่ประทับริมทะเลสมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ให้เห็นอยู่ รวมทั้งเป็นย่านร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ หลายร้าน สำหรับตลาดอ่างศิลาเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2419 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 134 ปีแล้ว  เทศบาลตำบลอ่างศิลา และชุมชนชาวอ่างศิลา ได้ร่วมกันพัฒนาตลาดอ่างศิลา เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี ภายใต้ชื่อโครงการ ตลาดเก่าอ่างศิลา 133 ปี โดยมีกำหนดเปิดตลาดในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 และจะมีทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 -18.00 น. มีชาวบ้านมาจำหน่ายสินค้าอาหาร ของฝากมากมาย อาทิ อาหารทะเลแปรรูป ขนมครกสูตรโบราณ ห่อหมก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดทำหนังสือเดินทางท่องเที่ยวทั่วอ่างศิลา  (All Around Ang-Sila Passport)  สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นคู่มือเดินทางสัมผัสกับโบราณสถานและจุดที่น่าสนใจต่าง ๆ ในตำบลอ่างศิลา นักท่องเที่ยวสามารถรับหนังสือเดินทาง (Passport)ได้ ณ ที่ทำการตลาดเก่าอ่างศิลา หลังจากเยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจของอ่างศิลาครบทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ พระตำหนักแดง ตึกขาว สะพานปลา  ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ  วัดอ่างศิลา และวังค้างคาว รวมทั้งติดแสตมป์ประทับตราแล้ว สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงเพื่อรับของที่ระลึกได้บริเวณที่ทำการตลาดฯ ตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ได้แบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 : เข้าวัดอ่างศิลา ชมความมหัศจรรย์วัด 2 โบสถ์ วัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 309 ปี ชมแหล่งประวัติศาสตร์ศิลปกรรมท้องถิ่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ใช้เทคนิคการตัดเส้นที่ดีและสวนที่สุดในประเทศไทย มณฑปและรอยพระพุทธบาท เจดีย์เก่าสมัยอยุธยาตอนปลาย นมัสการหลวงพ่อหิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวอ่างศิลา วิหารท่านเจ้าคุณพระ วิสุทธิสมาจาร โซนที่ 2 : บริเวณพระตำหนักมหาราช ท่านจะได้ชมพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการภาพเก่าเล่าขานชมตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ศาลเจ้าปุนเฒ่ากง และศาลเจ้าปุนเฒ่าม่า เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารและขนมไทย อาหารทะเลสด โซนที่ 3 : ชมตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ศาลเจ้าปุนเฒ่ากง และศาลเจ้าปุนเฒ่าม่า เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารและขนมไทย อาหารทะเลสด โซนที่ 4 : ชมศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ ชมวังค้างคาว ฟาร์มหอยบนสะพานที่ทอดยาวไปในทะเลกว่า 10 กิโลเมตร   เวลาทำการ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 10.00 - 18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะกรรมการตลาดเก่า อ่างศิลา133 ปี โทร. 0 3839 8497 , 08 0993 6743   ที่มา : chonburicafe.com ดูที่เที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ >>> Sanook Travel

Underwater World Pattaya สถานที่ท่องเที่ยวพัทยา

Underwater World Pattaya สถานที่ท่องเที่ยวพัทยา



 สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกในเมืองพัทยา ที่จะทำให้ผู้มาเยือนเหมือนกับได้เดินทางดำดิ่งสู่ใต้ทะเล โดยเริ่มจากชายฝั่งอันเป็นหาดทรายและแก่งหิน ลงลึกไปยังดงปะการังสีสันสดใส ซึ่งแข่งกันอวดโฉมแข่งกับฝูงผลามากมายตลอดเส้นทาง และเมื่อมาถึงในระดับท้องทะเลลึกท่านจะได้เข้าชมในอุโมงค์ซึ่งสร้างเป็นทางลอดไปอควาเรียมขนาดใหญ่ ที่จำลองสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติใต้ทะเลได้อย่างสวยงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามและความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลได้อย่างใกล้ชิดและตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ “Underwater World Pattaya” ยังเป็นสถานที่เหมาะสมกับการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับชีวิตสัตว์ทะเล รวมทั้งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลนานาชนิด โดยจะมีการพัฒนาโครงการสนับสนุนให้เยาวชนได้มีโอกาสมาเยือนและศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา กิจกรรมที่น่าสนใจใน Underwater World Pattaya กิจกรรมให้อาหารปลา         นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงให้อาหารปลา เพราะจะเป็นเวลาที่สัตว์โลกใต้น้ำกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ท่านจะได้เห็นลักษณะโดดเด่นในการกินอาหารของสัตว์น้ำแต่ละสายพันธุ์ อีกทั้งยังได้สัมผัสกับความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างสัตว์น้ำและนักประดาน้ำของเรา รอบการให้อาหารปลา  
 เวลา 
รายละเอียดการแสดง
สถานที่
     9.30
ชมการแสดงให้อาหารและสัมผัสความแสนรู้ของนากเล็กเล็บสั้น
ตู้นาก
   10.00
ชมความน่ารักแสนรู้ของเจ้ากระเบนนกกับการกินอาหารจากมือนักดำน้ำ
อุโมงค์ 2
   10.30
ตื่นตากับการดำน้ำให้อาหารปลาแนวปะการังนับพันตัว
อุโมงค์ 1
   11.00
ชมการแสดงให้อาหารและสัมผัสความแสนรู้ของนากเล็กเล็บสั้น
ตู้นาก
   11.30
สัมผัสความตื่นเต้น เร้าใจกับการชมนักดำน้ำให้อาหารฉลามและกระเบน
อุโมงค์ 2
   13.00
ร่วมสนุกกับการให้อาหารปลาด้วยมือของท่านเอง
บ่อทัชพูล
   13.30
ชมความน่ารักแสนรู้ของเจ้ากระเบนนกกับการกินอาหารจากมือนักดำน้ำ
อุโมงค์ 2
   14.00
ตื่นตากับการดำน้ำให้อาหารปลาแนวปะการังนับพันตัว
อุโมงค์ 1
   14.30
ชมการแสดงให้อาหารและสัมผัสความแสนรู้ของนากเล็กเล็บสั้น
ตู้นาก
   15.00
สัมผัสความตื่นเต้น เร้าใจกับการชมนักดำน้ำให้อาหารฉลามและกระเบน
อุโมงค์ 2
   15.30
ตื่นเต้นไปกับการชมการให้อาหารปลาช่อนอเมซอนขนาดใหญ่
ตู้อเมซอน
   16.00
ชมการให้อาหารเจ้าปลาไหลมอเลย์ตัวโต
ตู้ปลาอันตราย
   16.30
ชมความน่ารักแสนรู้ของเจ้ากระเบนนกกับการกินอาหารจากมือนักดำน้ำ
อุโมงค์ 2
   17.00
ปิดท้ายโชว์รอบสุดท้าย กับการให้อาหารเจ้านากแสนรู้
ตู้นาก


กิจกรรมดำน้ำกับฉลามและปลากระเบน สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต กับการดำน้ำกับฉลามและกระเบน  โดยมีเพื่อนๆและครอบครัวจับจ้องคุณอยู่ภายในอุโมงค์ใต้น้ำ คุณเคยรู้มั้ยว่าคุณสามารถดำน้ำกับปลาหลากหลายชนิด ภายในอุโมงค์ปลา เพียงแค่มาที่นี่และพร้อมที่จะดำน้ำ สำหรับส่วนที่เหลือยกให้เป็นหน้าที่ของเรา นักดำน้ำมืออาชีพของเรามั่นใจว่าคุณจะมีทุกอย่างพร้อม ที่จะทำให้การดำน้ำของคุณราบรื่น และมีความสุขอย่างที่สุด คุณสามารถเลือกได้ระหว่างโซนปะการัง และโซนฉลามกับกระเบน ไม่รู้ว่าจะเริ่มการดำน้ำอย่างไร? ไม่มีปัญหาเลยเพราะคุณสามารถเลือกการดำน้ำแบบ Snorkel ในโซนปะการังของเรา ตราบใดที่รู้จักวิธีการว่ายน้ำ ทุกอย่างก็ไม่มีปํญหา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อเราได้ ทางโทรศัพท์ โทรเลข หรือ อีเมล มาหาเรา เราจะติดต่อกลับท่านทันที กิจกรรมการเรียนรู้ โปรแกรมการศึกษาสำหรับ น้องๆ หนูๆ เวลาทำการ:9:00 – 18:00 น. (ปิดรับนักท่องเที่ยวชุดสุดท้าย เวลา 17:30 น.)

  ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่อยู่: 22/22 หมู่ 11 ถนนสุขุมวิท ต. หนองปรือ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี(600 เมตรจากเทสโก โลตัส สาขาพัทยาใต้)

แฟกซ์: 66 (0) 38 756 875 โทร: 66(0) 38 756 879        

 เบอร์ต่อการตลาด. 114, 115 & 119         

เบอร์ต่อการศึกษา. 116 (สำหรับติดต่อเกี่ยวกับโปรแกรมการศึกษาของน้องๆ หนูๆ)

 ที่มา : chonburicafe.com

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

เขาสามมุข ท่องเที่ยวพัทยา

เขาสามมุข ท่องเที่ยวพัทยา
เขาสามมุข ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงควบคู่กับหาดบางแสน เป็นทั้งที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของยอดเขาสูงที่มีบรรดาฝูงลิงอาศัยอยู่มาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปเล่นน้ำที่หาดบางแสน ก่อนเดินทางกลับบ้านมักจะแวะเที่ยวชมที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ทั้งบริเวณนี้ยังมีร้านอาหารทะเลขึ้นชื่ออยู่หลายร้านด้วย สิ่งที่น่าสนใจ ในเขาสามมุข *ศาลเจ้าแม่สามมุข*           เจ้าแม่สามมุข เป็นศาลเจ้าจีนที่ตั้งอยู่ บริเวณเชิงหน้าผาเชิงเขาสามมุขด้านทิศเหนือ ย้ายมาจากที่เดิมบริเวณด้านตะวันตกของเขาสามมุข ศาลแห่งนี้มักมีผู้คนแวะมากราบไหว้ขอพร  และบนบานกันอยู่เสมอ  โดยผู้ที่ได้รับผลสำเร็จตามคำขอจะแก้บนโดยการจุดประทัด  และซื้อสร้อยมุขมาถวายแด่รูปปั้นเจ้าแม่  นับเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวจีน  ฮ่องกง  และไต้หวัน  นิยมปฏิบัติกันมาก ไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้น ชั้นบนของศาลเจ้าแม่สามมุข เป็นวิหารพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ให้สักการะ  ส่วนบริเวณหน้าวิหารเป็นระเบียงสำหรับชมวิวทะเล *เขาสามมุข* เขาสามมุข มีถนนวนถึงยอดเขาที่เป็นจุดชมทิวทัศน์ทะเลกว้างไกล ด้านเหนือมองเห็นอ่าวอ่างศิลาที่มีหลักเลี้ยงหอยแมลงภู่และหอยนางรมปักอยู่เต็มท้องทะเล ส่วนด้านตะวันตกมองเห็นแหลมแท่นต่อเนื่องกับหาดบางแสน หากเป็นวันที่มีอากาศปลอดโปร่งจะมองเห็นเกาะสีชังและตัวเมืองศรีราชา ทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามมากแห่งหนึ่ง *ลิงเขาสามมุขป่า* ลิงเขาสามมุข เป็นลิงป่าที่อาศัยอยู่ในป่าบนเขาสามมุขมาแต่ดั้งเดิม จะออกมาบริเวณยอดเขาสามมุขตลอดวัน มีจำนวนนับพันหรือมากกว่า นักท่องเที่ยวนิยมซื้ออาหารเลี้ยงลิงจากแม่ค้า เป็นพวกถั่วต้ม ผัก ผลไม้ ขนม ใส่ตะกร้าเล็กๆ ตะกร้าละ 20 บาท ไม่ควรยื่นส่งให้ลิงทั้งถุงหรือห่อ เพราะลิงจะทิ้งถุงเป็นขยะเรี่ยราด สกปรกไปทั่วบริเวณ และให้ระวังลิงเกเรบางตัวเข้ามาแย่งฉวยอาหารจากมือด้วย ที่ตั้ง : อยู่บริเวณแหลมสามมุข บ้านแหลมแท่น ต.แสนสุข อ.เมือง การเดินทาง : เขาสามมุขไม่มีรถสองแถววิ่งผ่าน  ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก  แต่สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่งแล้วรอรับกลับได้ - จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข - จากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกไปตลอดทาง ห่างจากหาดบางแสนราว 2 กิโลเมตร เวลาทำการ           เขาสามมุขเป็นพื้นที่สาธารณะ  จึงสามารถผ่านไปเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา  แต่กลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว  นักท่องเที่ยวจึงนิยมไปเยือนและกราบไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุขในเวลากลางวัน  จนถึงเวลาประมาณ 18.00น. อัตราค่าเข้าชม :  ฟรี ตำนานอันแสนเศร้า ... ของเขาสามมุข           เมื่อปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณบางแสนและเขาสามมุข ยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบันนี้ ชื่อบางแสนและเขาสามมุขก็ยังไม่ปรากฏ จะมีก็เพียงแต่ตำบลอ่างหินอันเป็นชุมชนของชาวประมงริมทะเล ซึ่งปัจจุบันก็คือตำบลอ่างศิลาในปัจจุบัน มีเศรษฐีแห่งอ่างหิน (อ่างศิลา) ซึ่งชาวบ้านรู้จักกันในนามว่า "กำนันบ่าย" มีลูกชายชื่อว่า "แสน" และห่างจากตำบลอ่างหินออกไปพอประมาณมียายหลานอาศัยกันอยู่คู่หนึ่ง ยายมีชื่อเสียงเรียงนามใดไม่ได้ปรากฏไว้ ส่วนหลานสาวนั้นมีชื่อว่า "สาวมุข" หรือ "สามมุข" อาศัยอยู่ในเมืองปลาสร้อย (อำเภอเมืองชลบุรีในปัจจุบัน) "สามมุข" มักจะชอบมานั่งเล่นดูหนุ่มสาวรวมทั้งเด็กที่มาเล่นว่าวในหน้าลมว่าวอยู่ริมเชิงเขาเป็นประจำ และมีเพื่อนที่คอยหยอกล้อเล่นเป็นประจำก็คือลิงป่าที่ลงมาจากเขา อยู่มาวันหนึ่งขณะที่ "สามมุข"กำลังนั่งเล่นอยู่ ก็ได้มีว่าวตัวหนึ่งขาดลอยลงมาตกอยู่ที่หน้าของ "สามมุข" เธอจึงเก็บว่าวตัวนั้นไว้และ มีเด็กหนุ่มชื่อแสนวิ่งตามว่าวที่ขาดลอยมาจึงได้พบกับ "สามมุข" เขาทั้งสองได้รู้จักกันและแสนก็ได้มอบว่าวตัวนั้นไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้พบปะกันเรื่อยมาจนเกิดเป็นความรัก และได้สาบานต่อหน้าขุนเขา(เขาสามมุขในปัจจุบัน) ว่า "ทั้งสองจะครองรักกันชั่วนิรันดร หากใครผิดคำสาบานนี้จะกระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกัน" และแสนได้มอบแหวนวงหนึ่งให้แก่ "สามมุข" ไว้เพื่อเป็นพยาน เมื่อกำนันบ่ายทราบเรื่องเข้าก็เกิดความไม่พอใจ กีดกันและกักบริเวณแสนไว้ จึงทำให้ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากัน หลังจากนั้นกำนันบ่ายก็ได้ไปสู่ขอลูกสาวคนทำโป๊ะให้กับแสนและกำหนดพิธีการแต่งงานขึ้น ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอ่างหิน (อ่างศิลา) จน "สามมุข" เองก็ได้รับรู้ถึงข่าวนี้ด้วย ในวันแต่งงานของแสนได้มีการจัดงานกันอย่างใหญ่โต สมเกียรติกับที่เป็นงานของกำนันบ่าย ตลอดระยะเวลาที่แขกได้ทยอยเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรให้คู่บ่าวสาว แสนได้แต่ก้มหน้านิ่งเสียใจอยู่กับตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งแสนรู้สึกว่ามีน้ำสังข์รดลงมาพร้อมกับแหวนวงหนึ่งตกลงมาด้วย แสนจำได้ดีว่าแหวนวงนี้เขาเป็นคนมอบให้ "สามมุข" แต่พอเงยหน้าขึ้น "สามมุข" ก็ได้วิ่งจากไปแล้ว แสนได้หวนคิดถึงคำสาบานที่ได้ให้กับ "สามมุข" ไว้ จึงรีบวิ่งไปที่เชิงเขาแต่ก็สายไป เพราะ "สามมุข" ได้ขึ้นไปที่หน้าผานั้นแล้วทิ้งร่างที่ไร้หัวใจลงดิ่งสู่ก้นผาสิ้นชีพอยู่ริมทะเล แสนผู้ที่ให้คำสาบานไว้กับ "สามมุข" เขาจึงกระโดดลงหน้าผาตาม "สามมุข" หญิงสาวสุดที่รักไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันเศร้าสลดใจเป็นอย่างมาก จึงพากันสาปแช่งกำนันบ่าย ต่อมากำนันบ่ายจึงได้นำถ้วยชามสิ่งของต่างๆ มาไว้ในถ้ำตรงหน้าผาแห่งนั้นและตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า "เขาสามมุข" และชายหาดที่ติดกันว่า "หาดบางแสน" เพื่อเป็นอนุสรณ์รักแด่คนทั้งสองจนถึงปัจจุบัน ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นเล่าว่า "เมื่อตกดึกได้พบเห็นร่างของหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าผานั้น เป็นประจำทุกคืน” ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างศาลนี้ขึ้นเพื่อ เป็นที่สิงสถิตและ เป็นที่เคารพสักการะแก่ชาวบ้านและชาวประมงเมื่อเวลาที่จะ ออกเรือไปหาปลามักจะมีการมาจุดประทัดบนบาน ขอให้ได้ปลากลับมาเต็มลำเรือ อย่าต้องเผชิญกับลมพายุบางครั้งเจอลมพายุกลางทะเลก็จุดธูปบน เจ้าแม่สามมุข ให้รอดปลอดภัยจากอันตรายก็สัมฤทธิ์ผลเรื่อยมา จากนั้นเมื่อเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ของ เจ้าแม่สามมุข นั้นแพร่กระจายออกไป ก็มักมีคู่รักชายหญิง มาอธิษฐานขอให้ความรักของตนสมหวัง โดยเขียนชื่อตนกับคนรักไว้บนว่าว แล้วแขวนไว้บริเวณศาลโดยเชื่อกันว่า เจ้าแม่สามมุข จะดลบันดาลให้ทุกคู่รักสมหวัง และไม่พลัดพรากจากกันเหมือนดังในตำนาน   ติดตามข่าวท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่ >>> Sanook Travel

ช่องแสมสาร ไปเที่ยวพัทยา

ช่องแสมสาร เที่ยวพัทยา
 

ปลายแหลมแสมสารที่อยู่ใต้สุดของ อ.สัตหีบ มีหมู่เกาะแสมสารซึ่งประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย จำนวนเก้าเกาะตั้งอยู่เรียงราย โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินตรงปลายแหลมแสมสารเพียง 300 ม. จึงเกิดเป็นช่องทางเล็กๆ ที่เรือผ่านเข้าออกได้ เรียกว่า “ช่องแสมสาร” และเนื่องจากมีเกาะมากมายอยู่ใกล้ฝั่งช่วยป้องกันคลื่นลมจากทะเลลึก บริเวณช่องแสมสารจึงเป็นทำเลที่ดีสำหรับชาวประมงที่อาศัยท้องทะเลเป็นแหล่งทำมาหากิน มีการตั้งบ้านเรือนในบริเวณนี้จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ ส่วนพื้นที่บนเกาะทั้งหมดปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ของทหารเรือ ไม่มีชุมชนอยู่อาศัย ธรรมชาติทั้งบนเกาะและรอบเกาะจึงมีความอุดมสมบูรณ์ แต่จะอนุญาตให้ขึ้นเกาะได้ในช่วงกลางวันเพียงบางจุดเท่านั้น นอกจากนี้หมู่เกาะนี้ยังเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่นิยมตกปลาอีกด้วย ที่ตั้ง : บ้านแสมสาร ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ห่างจากตัวเมืองสัตหีบประมาณ 14 กิโลเมตร การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว จากแยกเข้าตัวเมืองสัตหีบ ใช้ ถ.สุขุมวิท ไปทางจังหวัดระยองประมาณ 6 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3126 ไปทางจุกเสม็ดประมาณ 2 กม. พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปราว 300 ม. พบทางแยกซ้ายมือให้เลี้ยวเข้าไปจนสุดเส้นทางที่ชุมชนแสมสาร มีท่าเรือเขาหมาจอเป็นจุดลงเรือไปเที่ยวหมู่เกาะ รถประจำทาง         ขึ้นรถสายสัตหีบ-ช่องแสมสาร สิ่งที่น่าสนใจ วิหารหลวงพ่อดำ เมื่อถึงชุมชนแสมสารจะมีป้ายบอกทางไปวิหารหลวงพ่อดำทางด้านซ้าย ถนนขึ้นเขาเล็กน้อย วิหารหลวงพ่อดำเป็นอาคารหลังคาจัตุรมุข ผนังด้านนอกวิหารทั้งสี่ด้านเป็นประติมากรรมปูนปั้นนูนสูงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่สวยงามมาก ภายในวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวแสมสารเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ปิดทองคำเปลวจนสุกอร่ามทั้งองค์ ผนังภายในวิหารมีงานจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม มีวิธีการสร้างสรรค์งานที่อาจไม่พบที่ใด คือการลงสีพื้นเป็นตารางหมากรุกโทนสีหวานสดใสและตัดเส้นถมพื้นด้วยสีดำ เขียนภาพเป็นเรื่องราวของพระพุทธเจ้า เทคนิคการลงสีเช่นนี้ทำให้ดูราวกับสีเหลือบของเปลือกหอยมุข ด้านหลังวิหารหลวงพ่อดำมีลานชมทิวทัศน์ที่มองเห็นช่องแสมสารซึ่งอยู่ระหว่างแผ่นดินและเกาะแรดได้ถนัด โดยการเห็นเกาะแสมสารเป็นเกาะอยู่ถัดไป ชุมชนแสมสาร สุดทางหลวงหมายเลข 3126 เป็นชุมชนชาวประมงติดทะเลที่อยู่กันหนาแน่น มีสะพานปลาจำนวนมาก ในช่วงเช้าตรู่ตามสะพานปลาทุกแห่งจะคึกคัก มีเรือปะมงเข้าเทียบท่านำอาหารทะเลสดขึ้นฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการ จะได้อาหารทะเลที่ทั้งสดใหม่และราคาถูก นอกจากชาวประมงพื้นถิ่น ยังมีชาวเขมร ลาว และพม่า จำนวนมากมารับจ้างทำงานประมง หมู่เกาะแสมสาร มีเกาะเล็กเกาะน้อยหลายเกาะ เกาะแรดอยู่ใกล้ฝั่งที่สุด ห่างจากแหลมแสมสารเพียง 300 ม. เกาะแสมสารมีขนาดใหญ่สุด ยาว 4.5 กม. และกว้าง 1.5 กม. เกาะจานอยู่ไกลสุด ส่วนเกาะอื่นๆ ก็มี เกาะจวง เกาะโรงหนัง เกาะโรงโขน เกาะฉางเกลือ เกาะปลาหมึก และเกาะขาม เกาะขาม เป็นเกาะเดียวในหมู่เกาะแสมสารที่อนุญาตให้ขึ้นเที่ยวได้ โดยอยู่ในความดูแลของทหารเรือ เกาะขามมีหาดทรายขาวกว้าง มีปะการังน้ำตื้นที่สวยงามมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นอุทยานใกล้ทะเล เปิดให้เที่ยวในช่วงเดือน ก.ย. – เม.ย. ส่วนช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. ของทุกปี จะปิดเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว อนุญาตให้ขึ้นเกาะได้เฉพาะช่วงกลางวัน มีเรือออกไปเกาะขามทุกวัน ลงเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ ไป-กลับ 200 บาท (ค่าเรือรวมค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะแล้ว) ติดต่อสอบถามที่กองกิจการพลเรือน กองเรือป้องกันฝั่ง ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า โทร 0-3843-2170, 08-9936-9409 ส่วนเกาะแสมสารซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์สมุนไพร และเกาะจานซึ่งเป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเลนั้น ห้ามขึ้นเด็ดขาด สำหรับเกาะอื่นๆอนุโลมให้ขึ้นเล่นน้ำบนชายหาดได้ในบางจุดช่วงเวลากลางวัน ซึ่งคนขับเรือในแสมสารจะรู้ดี

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

เกาะค้างคาว ศรีราชา ท่องเที่ยวพัทยา

เกาะค้างคาว ศรีราชา ท่องเที่ยวพัทยา

จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเพียง 120 กม. ถึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ท่าเรือเกาะลอย เป็นจุดลงเรือไป 45 นาที ถึงเกาะค้างคาว นาน มาแล้ว อ.ศรีราชา หรือ อ.ศรีพระมหาราชา เป็นชื่อตั้ง ของพระมหากษัตริย์สมัยก่อน และจากชายฝั่งมองออกไปไม่ ไกลนัก จะมองเห็นเกาะกลางทะเลได้อย่างชัดเจนเป็นที่หลบฝน พายุ และ คลื่นลมของชาวเรือสำเภาที่สัญจรมาทำการค้า ระหว่างประเทศ และ ยังเป็นที่ตั้งพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือหมู่เกาะสีชังนั่นเอง ซึ่งเป็นที่รู้จัก กันแพร่หลาย ต่อมาด้วยความเจริญรุ่งเรืองได้พัฒนาเป็นท่าเรือแห่งประเทศไทย เกาะสีชังมีหมู่เกาะอยู่ทั้งหมด 9 เกาะด้วยกัน และเกาะค้างคาวเป็นเกาะที่ 8 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะสีชัง เป็นเกาะเล็ก ๆ มีเนื้อที่ราว 500 – 600 ไร่ โดยประมาณ มี หาดทรายอยู่ 3 หาด ด้วยกัน ด้านหน้าเกาะมีหาดทรายยาวประมาณ 300 เมตร และเป็นบ้านพักติดหาดสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนหาดด้านทิศตะวันตกของเกาะเป็นหาดเล็ก ๆ ไม่มีที่พักเพราะหาดเล็กมากเหมาะสำหรับนักตกปลาเพราะมีโขดหิน และ แนวปะการังมีปลาหลากหลายชนิด ทำไมถึงชื่อเกาะค้างคาว เดิมทีแล้วชื่อ เกาะท้ายค้างคาว และต่อมาทางการได้ตั้งชื่อขึ้น มาเพื่อให้ง่ายแก่การเรียก เป็นเกาะค้างคาว อนึ่งก็ยังมีค้างคาวแม่ไก่แวะเวียนกินผลไม้สุกตามฤดูกาล เมื่อก่อนเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่มีเพียงดงตะบองเพชรตามริมหาดและต้นไม้ที่ ขึ้นเองตามธรรมธาติบริเวณหาดหิน หาดทรายมีชาวประมงเดินเรือผ่านมาแวะพักแรมบ้าง ต่อมามีการเลี้ยงแพะ และสร้างบ้านพักขึ้นมาเพียงไม่มีกี่หลัง ก็เริ่มมีนัก ตกปลาแวะเวียนมาเรื่อยๆ เลยสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาอีก ปัจจุบันมีอยู่ 7 หลัง พักได้หลังละ 6 – 10 คน ปลูกแบบธรรมชาติใช้ไฟ ปั่น ไม่มีแอร์ อากาศเย็นแบบธรรมชาติ และปัจจุบันได้พัฒนาจัดเป็นที่ท่องเที่ยวโดยผู้เชี่ยวทางด้านท่องเที่ยงทาง ทะเล (ค้าง คาวทัวร์ หรือ ตะวันออกพัฒนาการท่องเที่ยว) เป็นผู้ดูแลจัดกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวไว้หลากหลายรูปแบบ เช่น ล่องแพไปดำ น้ำรอบเกาะ บริการตกปลากลางทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่สอนวิธีการตก และพายเรือคยัคชมบริเวณหน้าผาหินต่างๆ บริเวณรอบ เกาะได้อย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับสอนวิธีการดำน้ำตื้นสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญการหรือดำน้ำไม่เป็น และที่สำคัญบริเวณรอบเกาะ ค้างคาวมีแนวปะการังและฝูงปลาสวยงามให้ได้ชมหลากหลายชนิดและยังเป็นศูนย์ วิจัยของจุฬาลงกรณ์ พร้อมประทับใจกับ อาหารทะเลสดๆ ปิ้ง ๆ ย่าง ๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา จากเรือประมงไว้บริการท่านอย่างไม่อั้น สำหรับนักท่องที่ยวสนใจที่จะเดิน ทางไปสัมผัสเกาะค้างคาวหรือทะเลใกล้กรุงเทพฯ สอบถามได้ที่ สำนักงานเกาะค้างคาวทัวร์ หรือตะวันออกพัฒนาการท่องเที่ยว โทรศัพท์/แฟกซ์ 02–886–7366 มือถือ 081–341–4693, 089–771– 9170 เวปไซต์ www.kangkao.com ขอขอบคุณบทความ คุณ ชาย จิตรมงคล
ดูที่เที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ Sanook Travel

Big Bee Farm ที่ิิเที่ยวพัทยา

Big Bee Farm ที่ิิเที่ยวพัทยา


บริษัท บิ๊กบี ฟาร์ม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งของคนไทยให้เข้าสู่ระดับมาตรฐานสากล ซึ่งทางบริษัทได้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมผู้เลี้ยงผึ้งอินทรีย์ไทย (Thai Organic Beekeeper Association) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นสมาคมที่ก่อตั้งเพื่อการให้ความรู้กับเกษตรกรตามแบบฉบับการเลี้ยงผึ้งแบบอินทรีย์ที่ส่งผลให้ได้ผลผลิตมาตรฐานสากล อีกทั้งบริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงผลิตภัณฑ์ผึ้ง โดยการให้ส่งเสริม ให้ข้อมูลทางด้านคุณประโยชน์และการใช้ผลิตภัณฑ์ผึ้งที่เป็นอาหารสุขภาพของคนไทย ตลอดจนมีการส่งเสริมให้คนไทยหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ผึ้งซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่หาง่ายและอยู่ควบคู่คนไทยมาแต่บรรพบุรุษ
กิจกรรมใน Big Bee Farm         บิ๊กบี ฟาร์ม ศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์ผึ้ง แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเมืองพัทยา ที่รวบรวมหลากหลายกิจกรรมความสนุก และความรู้ในเรื่องผึ้งของเมืองไทย มาไว้ในแห่งเดียว การเรียนรู้เรื่องผึ้ง         ผู้ที่เข้ามาในบิ๊กบี ฟาร์ม จะได้สัมผัสกับผึ้งและวิธีการเลี้ยงผึ้งแบบต่างๆ ที่มีในเมืองไทยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งในบิ๊กบี ฟาร์ม ยังมีพิพิธภัณฑ์ผึ้งเพื่อให้ผู้ที่สนใจเรื่องผึ้งของเมืองไทย ได้เข้ามาเยี่ยมชมหาความรู้ และร่วมค้นหาวิธีการพิสูจน์น้ำผึ้งแท้ว่ามีวิธีอย่างไร อิ่มอร่อยกับอาหารจานผึ้ง         หลายหลายเมนูสุขภาพจานน้ำผึ้ง ที่ถูกคัดสรรมาพร้อมกับความอร่อยที่เป็นสูตรเฉพาะของเราคัดสรรคุณภาพวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ครบครันทั้งสุขภาพและความอร่อย ช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์ผึ้ง         เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ผึ้งที่คัดสรรคุณภาพจากฟาร์มผึ้งออร์แกนิค และผลิตภัณฑ์ผึ้งแปรรูป และสินค้าโอท๊อปท้องถิ่น ที่รวบรวมมาไว้สำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวที่บิ๊กบี ฟาร์ม การบำบัดโรคโดยเหล็กในผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้ง         พบกับศาสตร์และศิลป์แห่งการบำบัดโรคด้วยผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้ง ตามแบบสากล “Apitherapy การรักษาโรคโดยใช้ผึ้ง”
ติดต่อสอบถาม : บิ๊กบี ฟาร์ม จำกัด (เทพประสิทธิ์ กรุ๊ป) ศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์ผึ้ง 41/10 หมู่3 พัทยา ชลบุรี 20150 Tel: 038-172-001 ถึง 2 Mobile: 081-8898772 Website: http://www.bigbeefarm.com/
ที่มา : chonburicafe.com
ดูแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ >> Sanook travel

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

The Now Hotel Pattaya ที่พักพัทยา

The Now Hotel Pattaya ที่พักพัทยา
โรงแรม เดอะ นาว (The Now Hotel) เป็นโรงแรมที่ได้รับการพูดถึงมากในช่วง 2-3 ปีมานี้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเดอะ นาว โฮเต็ลเป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน บวกกับการตกแต่งในสไตล์ที่ดูดิบ ๆ คือทำเป็นลักษณะที่เหมือนโรงแรมยังสร้างไม่เสร็จ ด้านหน้าโรงแรมก็เป็นชายหาดเลย (หาดจอมเทียน) สามารถเดินมารับลมทะเลได้ด้วยการเดินออกจากโรงแรมเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่งหนึ่งของโรงแรมนี้ก็คือ การตกแต่งห้องพักให้ดูโรแมนติก เหมาะกับเป็นโรงแรมทางเลือกสำหรับคู่รักไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นโรงแรมอยู่ในเขตจอมเทียนที่หาง่าย เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือรถสองแถวก็ง่ายทั้งคู่ เดอะ นาว โฮเต็ล มีห้องพักทั้งหมด 5 แบบ เป็นลักษณะเหมือน size ของเสื้อผ้า นั่นก็คือ XS, S, M, L และ XL ซึ่งเล็กสุดก็เป็น XS และใหญ่สุดก็เปน XL อย่างที่เราเข้าใจกันอยู่แล้ว สำหรับ XS และ S นั้นเป็นห้องที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย เป็นไสตล์แบบญี่ปุ่น ส่วนห้อง M เป็นห้องที่มีขนาดกำลังพอเหมาะ เป็นห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคู่รัก การตกแต่งดูมีไสตล์ มีการวางอ่างอาบน้ำไว้บริเวณหัวเตียงด้วย ส่วนห้อง L กั XL ก็ใหญ่ขึ้นและสิ่งอำนวยความสะดวกก็มากขึ้น (ห้อง XL เป็นห้องที่อยู่ด้านหน้าสุดและเห็นน้ำทะเลแบบเต็ม ๆ ด้วย) คราวนี้ห้องที่เราจะมา Review ก็คือห้อง M ที่เป็นห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นเอง ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องที่กว้างพอสมควร มีพื้นที่ใช้สอยเอยะดูไม่อึดอัด การตกแต่งดูดีมีเอกลักษณ์ ห้องน้ำแยกกันที่ด้านซ้ายกับด้านขวา ซึ่งกระจกกั้นมีลักษณะเป็นแบบซีทรูขุ่น ๆ ส่วนอ่างอาบน้ำอยู่ตรงกลางห้องบริเวณหัวเตียงเปิดเข้ามาก็เจอได้ทันทีเลย ในตอนกลางคืนห้องนี้จะมีความโดดเด่นมากขึ้นจากแสงไฟประดับห้อง ซึ่งก็ทำให้ห้องดูสวยงามมากขึ้นอีกด้วย มีรหัสผ่านสำหรับ Internet WIFI ให้ด้วยซึ่งสัญญาณก็ถือว่าแรงใช้ได้เลยทีเดียว แต่ได้ยินว่าบางเคสก็เชื่อมต่อไม่ได้อันนี้ไม่เข้าใจสาเหตุเหมือนกัน ภายในห้องพักก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี(พร้อมช่องเคเบิ้ลทีวีมากมาย) เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น ไดเป่าผม กาต้มน้ำร้อน เครื่องทำน้ำอุ่น สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู อีกทั้งยังมีรองเท้าและผ้าเช็ดตัวสำหรับชายหาดด้วย ชั้นล่าง Lobby ตกแต่งในลักษณะที่เป็นแบบ Open Air เป็นแบบเปิดโล่ง ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าอยู่ติดหาด ทำให้มีลมเข้าตลอดเวลานั่นเอง มุมด้านล่างยังมีบาร์บริเวณหน้าสุด และถัดมาจะมีมุมเล็ก ๆ เป็นมุมนั่งเล่น มีหนังสือพิมพ์ให้อ่าน มีซุ้มหวายสีดำ และมีที่นั่งสำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตด้วย แต่เสียค่าใช้จ่ายนะ (ลืมถามว่าคิดค่าใช้จ่ายยังไงซะด้วยซิ) ถัดจากมุมนั่งเล่นมาก็เป็นเคาท์เตอร์เช็คอิน ติดต่อเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ หรือข้อมูลต่าง ๆ ก็บริเวณนี้เลย ถัดเข้ามาอีกหน้อยก็มีที่ไว้ให้นั่งเล่น มีตุ๊กตาไว้ให้ถ่ายรูปด้วย ซึ่งบริเวณนี้ติดกับส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งเป็น International Buffet (แต่ตัวเลือกก็ไม่ได้มากมายอะไรนักนะ) ด้านหน้าสุดเลยก็มีเซเว่นอีเลฟเว่นด้วยนะ สะดวกในการซื้อขนมกินมาก ๆ   ที่มา : pattayaconcierge.com ดูที่เที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ >>> Sanook Travel

Diamond City Place ที่พักราคาประหยัด ใกล้ถนนคนเดินพัทยา

 

 ไดมอน ซิตี้ เพลส เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ แอนด์ แมนชั่น เป็นที่พักที่น่าสนใจมากที่นึงในพัทยา เพราะว่ามีจุดดีมากมายในราคาประหยัด ซึ่งราคาจะขึ้นลงบ้างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก (ราคารวมอาหารเช้าด้วย) จุดดีที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ทำเลที่ตั้งของ ไดมอน ซิตี้ เพลส เพราะว่าตั้งอยู่ติดกับถนนหลักอย่างพัทยาใต้ ทำให้หาได้ง่าย รวมทั้งยังอยู่ในย่านชุมชน มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาเก็ต และตึกคอมพัทยาอยู่ใกล้ ๆ หากเราอยากจะไปถนนคนเดินพัทยาก็สามารถเดินไปได้ โดยใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที จุดดีข้อถัดมาก็คือห้องพักมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี ตู้เย็นเล็ก+น้ำ 2 ขวด ตู้แขวนเสื้อผ้า ที่วางรองเท้า โต๊ะเครื่องแป้ง ภายในห้องน้ำก็จะมีอ่างอาบน้ำ ชักโครกมีสายฉีดน้ำ อุปกรณ์ในห้องน้ำที่จัดเตรียมไว้ให้ก็มีสบู่ก้อน ยาสระผม 1 ซอง และที่คลุมผมอาบน้ำ ด้านหน้าจะมีร้านอาหารของไดมอน ซิติเพลส ไว้ให้บริการ เดินเข้ามาด้านในก็จะเจอบริเวณที่จอดรถ จากนั้นก็จะเป็นเค้าเตอร์สำหรับบริการลูกค้า รวมถึงเช็กอินก็ที่นี่ด้วย ซึ่งการตกแต่งก็ดูสบาย ๆ โล่ง ๆ เพราะทำเป็นแบบเปิด (Open Air) การติดต่อเข้าพักและเช็คเอ้าก็สะดวกรวดเร็วไม่ยุ่งยากอะไร บรรยากาศของ ไดมอน ซิตี้ เพลส เซอร์วิส ก็ดูสบาย ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนโรงแรมใหญ่ ๆ พื้นที่ทางเดินในอาคารก็ดูกว้างขวาง บริเวณชั้น 2 มีสระว่ายน้ำเล็ก ๆ แต่ดูจะเหมาะกับการลงไปแช่ตัวมากกว่า มาคิด ๆ ดูแล้วบริเวณนี้สามารถเป็นจุดพักผ่อนได้ เพราะมีพื้นที่นั่งเล่นจัดเตรียมไว้ให้ด้วย บริเวณด้านหน้าที่ติดกับถนนพัทยาใต้ จะเป็นร้านอาหารของไดมอน ซิตี้ ลูกค้าที่พักรายวันก็สามารถรับคูปองแล้วเข้าไปทานอาหารได้เลย บรรยากาศเป็นกันเอง พนักงานให้คำแนะนำดี อัธยาศัยดี อาหารไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ แต่จะมีราการให้เลือกว่าจะทานอะไร ซึ่งมี 3 ชุดอาหารให้เลือก พอเลือกแล้ว ก็มีรายละเอียดย่อยของชุดนั้นให้เลือกอีก ซึ่งชุดอาหารเช้าก็ มีให้เลือกหลายอย่าง ทำออกมาดูดีน่ากิน รสชาดก็โอเค เมื่อมาคิดดูแล้วราคาห้องพักถือว่าไม่แพงเลย เพราะรวมอาหารเช้าแบบนี้เข้าไปด้วย

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

ร้านเบเกอรี่คัพเค้กซ์ (Kupcakz) ที่กินพัทยา

ร้านเบเกอรี่คัพเค้กซ์ (Kupcakz) ที่กินพัทยา



Kupcakz (คัพเค้กซ์) หนึ่งในร้านเบเกอรี่แนะนำในพัทยา ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นร้านของโรงแรม Z through by the Zign ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีการตกแต่งสวยงาม มีขายทั้งเบเกอรี่ ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ไอศครีม และอาหารแบบหนักหน่อยด้วย ทำให้รองรับลูกค้าได้หลากหลายประเภทเลย นอกจากนั้นบริเวณร้านยังสามารถเชื่อมต่อ Internet Wifi ได้ free จึงทำให้ Kupcakz เป็นอีกทางเลือกน่าสนใจที่จะมานั่งชิลไม่น้อยเลย ตำแหน่งที่ตั้งของร้านก็อยู่ในซอย 12 นาเกลือ (ซอยเดียวกับปราสาทสัจธรรม) เมื่อปี 2009 ร้านคัพเค้กซ์นี้ได้เปิดให้บริการพร้อมกับโรงแรม Z through by the zign เลย ทำให้คนที่มาพักที่โรงแรมได้แวะมาทานมื้อเบา ๆ ที่นี่ด้วย แต่ที่ร้าน Kupcakz นั้นจริง ๆ แล้วเป็นเพียงร้านเล็ก ๆ ภายในร้านมีจำนวนโต๊ะไม่มาก คือมีโต๊ะเพียง 4 ตัวเท่านั้น แต่ยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกอีกหนึ่งตัวที่รวมกันเป็น 5 ภายในร้านมีให้บริการ wifi และมีห้องน้ำไว้รองรับลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้เพิ่มความสะดวกสำหรับคนมานั่งพักผ่อนที่นี่ได้เป็นอย่างดี หากพูดถึงโปรโมชั่น คนที่มาพักที่โรงแรม Z through by the zign ก็จะได้ส่วนลด 10% สำหรับร้าน Kupcakz นี้ด้วย (โดยต้องหยิบ brochure ส่วนลดจากทางโรงแรมมาด้วยนะ) แต่เห็นว่าหนังสือท่องเที่ยวบางเล่มจะมีส่วนลดกับทางร้านนี้อยู่ด้วย ใครจะแวะมากินที่นี่ก็ลองหาดูด้วยก็ได้ นอกจากนั้นในแต่ละช่วงฤดูกาลก็จะมีอาหารที่แตกต่างไปจากเมนูด้วย อย่างเช่น ไอศครีมหรือเค้กหน้ามะม่วง กล้วย และสตอเบอร์รี่ เป็นต้น น้ำดื่มก็จะมีโปรโมชั่นที่ต่างจากเมนูนี้ในทุก ๆ เดือนเช่นกัน เบเกอรี่ที่นี่ก็รสชาดดีตามกระแสที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักนั่นแหละ แต่ที่อยากจะแนะนำอีกอย่างนึงนั้นก็คือ Smoothie หรือน้ำผลไม้รวมปั่น (ไปตามสูตรของแต่ละที่) เพราะว่ารสชาดนั้นเรียกได้ว่าดีมากเลยทีเดียว ซึ่งปกติคนไทยมักจะชอบ Kupz Kupz ส่วนคนต่างชาติจะชอบ Sweet Mango Mania และ Lite N Sweet Apple ในส่วนของ Bakery ก็จะมีอันที่เด็ก ๆ ชอบกินให้เลือกด้วย Kupcakz นั้นเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 ไปจนถึง 23.00 โดยตำแหน่งที่ตั้งนั้นก็อยู่ที่นาเกลือซอย 12 เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วขับตรงไปเรื่อย ๆ แล้วมาเลี้ยวขวาตรง The Zign Hotel ซึ่งพอขับเลยโรงแรมไปหน่อย ก็จะเจอ Kupcakz ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ (อยู่หน้า Z through by the zign เลย)

 ที่มา : pattayaconcierge.com

 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >>> Sanook Travel 

โรงแรมพัทยา ซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท แอนด์ สปา ท่องเที่ยวพัทยา

 

โรงแรมพัทยา ซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท แอนด์ สปา ท่องเที่ยวพัทยา

รีสอร์ทพร้อมชายหาดส่วนตัว นาจอมเทียน เพียง 15 นาทีจากพัทยา รีสอร์ทขนาดใหญ่เต็มไปด้วยความงามชวนสัมผัส น้ำทะเลใส หาดทรายขาว ลมทะเลอบอุ่น และที่สำคัญคือสงบและเป็นส่วนตัว ที่แตกต่างจากรีสอร์ทอื่นๆ ในพัทยา ด้วยที่พักสไตล์ Tropical Modern หรูหราระดับห้าดาว รายล้อมด้วยสวนสวยแบบบาหลี อัดแน่นด้วยแนวความคิดของการเชื่อมองค์ประกอบศิลป์ที่งดงาม เริ่มจากโถงกว้างของล็อบบี้ ต่อเนื่องกับสเปซด้านนอกที่มีสระน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้าสวยงาม เมื่อมองข้ามมาจะเห็นทางเดินที่เชื่อมสู่สระว่ายน้ำแบบ infinity freeform และสู่ชายหาดอันงดงามด้านหน้า ท่ามกลางธรรมชาติของแมกไม้เมืองร้อนและห้องพักที่สร้างไว้ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักและวิลล่าสไตล์โมเดิร์นถูกตกแต่งสวยงามประณีต พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่รักความสงบและต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องสวีท หรือ วิลล่า สำหรับโซน ห้องพัก Deluxe Pavilion Suite ห้องสวีทหรู ที่มีถึง 4 Clusters ซึ่งแต่ละ Clusters นั้นมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น โดยแต่ละห้องมีทางเข้าส่วนตัว ระเบียง เหมาะสำหรับผู้ที่มาพักผ่อนสบายๆ หรือจะเป็นโซนวิลล่า เรามีให้เลือกถึง 3 แบบ Garden Suite with Jacuzzi วิลล่าที่คุณสามารถลงแช่น้ำในอ่างจากุชชี่เอาท์ดอร์ Pool Villa Suite วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวระบบน้ำวน Ocean Front Pool Villa Suite ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาพักผ่อนกับคนพิเศษ ด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว ชายหาดหน้าวิลล่าที่สวยงาม พร้อมอาทิตย์ตกยามเย็นที่คุณสามารถมองเห็นจากห้องพัก     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PATTAYA SEA SAND SUN RESORT AND SPA 78/4 M.8 Sukhumwit K.M. 163 Na Jomtien, Sattathip, Chonburi 20250 Tel : + 66 38 435163 Fax : + 66 38 435-171 Email : pr@seasandsunpty.com Website : seasandsunpty.com

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

โรงแรม สวัสดี ซีวิว ที่พักพัทยา

โรงแรม สวัสดี ซีวิว (พัทยา) ที่พักหรูหราทันสมัย  แต่ราคาประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ บริการเป็นกันเองความอบอุ่น และใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของผู้พักทุกห้องพัก ห้องพักได้ออกแบบให้สามารถชมวิวทะเลพัทยาที่สวยงาม หากยังไม่หนำใจจะขึ้นไปบนหอชมวิวชมแสงสีของเมืองพัทยายามค่ำคืนจากมุมบนก็ น่าตื่นเต้นใจไม่น้อย ไม่ว่าคุณจะมาเป็นคู่ มากับครอบครัว หรือมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง โรงแรมสวัสดี ซีวิว ก็พร้อมต้อนรับคุณด้วยบริการที่ดีเยี่ยมไปตลอดการพักผ่อนของคุณ โรงแรม สวัสดี ซีวิว (พัทยา) เดินทางสะดวก เนื่องจากอยู่ห่างจากสถานีขนส่งพัทยากลางเล็กน้อย อยู่ใกล้ชายหาด ห้องพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ติดต่อ โทร. 02-2560890-2ต่อ 301 – 308 เว็บไซต์ : http://www.sawasdee-hotels.com ที่ตั้ง :327/1 หมู่ 10 พัทยากลาง ถ.พัทยาสาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20260 แผนที่   ดูข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ >> Sanook Travel