วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

2 วันชิลล์ๆ ขับรถไปเที่ยวพัทยา


พูดถึง พัทยา คุณนึกถึงอะไร คำตอบหลายคนคงแตกต่างกันไป เพราะเมืองชายทะเลแห่งนี้มีตัวตนหลายรูปแบบ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ พัทยา สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ทุกอย่าง
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาผมและเพื่อนสนิท ที่ต่างคนต่างทำงานคนละบริษัทจนไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน เราได้นัดชวนกันไปเที่ยวพัทยา โดยตั้งใจว่าจะขับรถไปเที่ยวกัน ไม่อยากนั่งรถโดยสารสาธารณะให้เสียเวลา เพราะมีเวลาพักผ่อนสั้นๆ เพียงแค่วันหยุดเสาร์- อาทิตย์ และอยากเที่ยวให้พัทยาในมุมอื่นๆ ดูบ้าง นอกจากการไปนั่งกินส้มตำและดูทะเลเพียงอย่างเดียว! โชคดีว่าเพื่อนผมเคยเช่ารถไปเที่ยวมาก่อน เขาลองแนะนำให้ผมใช้บริการรถเช่าของ Budget ซึ่งเป็นศูนย์บริการรถเช่าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ มีรถหลายชนิดให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งเขาให้บริการดี เป็นกันเอง ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเมื่อไปเยือนศูนย์บริการรถเช่าบัดเจท คาร์ แอนด์ ทรัค เรนทรัล สาขากรุงเทพฯ (RCA) จึงใช้เวลาไม่นานนักเลือกเช่ารถขนาดเล็ก สำหรับการเดินทางแบบสะดวกสบายเพียงสองคน
ทริปไปนี้เที่ยวครั้งนี้ เราออกเดินทางกันในช่วงสายๆ ปกติจากที่เคยไปแต่เส้นทางบายพาสเพราะว่าเร็วและสะดวกดี เลยเปลี่ยนมาใช้เส้นทางปกติ เพื่อจะได้ผ่าน สวนเสือศรีราชา ซึ่งอยู่ห่างจากตลาดศรีราชาไปเล็กน้อย ยังไงที่นี่ก็เป็นเส้นทางผ่านสู่พัทยาอยู่แล้ว จะไม่แวะเที่ยวก่อนสักนิดก็น่าเสียดาย ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่มีการเลี้ยงเสือเบงกอลมากกว่า 200 ตัว มีฟาร์มจระเข้และสัตว์อื่นๆ รวมทั้งมีการแสดงโชว์ของสัตว์ต่างๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันของเสือกับหมู การแสดงจับจระเข้ ละครสัตว์ (แน่นอนว่าต้องมีเสือร่วมแสดงอยู่ด้วยเยอะแยะ) การแสดงช้าง การแข่งขันวิ่งหมู อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปคู่กับเสือเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

จากนั้นเราขับรถไปแวะกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน The Glass House ร้านอาหาริมทะเลพัทยา ที่ใครได้มาเห็นก็ต้องร้องว้าวกับบรรยากาศของตัวร้านที่เป็นร้านอาหารแบบเปิดโล่ง ร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีโต๊ะสีขาวสะอาดวางเรียงเป็นแนวพร้อมเบาะนั่งนุ่มๆ ให้นั่งกินอาหารแบบสบายๆ วันนี้เราสองคนเลือกนั่งโต๊ะที่ติดกับชายหาดเขา ที่สามารถถอดรองเท้าเยียบย่ำทราย ฟังเสียงคลื่น และรับลมทะเลเย็นๆ ก่อนเปิดเมนูสั่งอาหารรสเลิศที่ล้วนแล้วแต่ถูกปาก อาทิ ต้มยำกุ้งน้ำข้นตัวโตๆ หอยนางรมสดๆ กับน้ำจิ้มซีฟู้ดและเครื่องเคียงแซ่บๆ กุ้งผัดหน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น ทุกจานกินพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจนไม่อยากลุกไปไหนเลยอ่ะ
อิ่มท้องแล้ว เราเปลี่ยนบรรยากาศไปชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลกลางเมืองพัทยากันต่อ อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา (Underwater World Pattaya) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่ บนถนนสุขุมวิท ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นแหล่งรวมสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ในด้านอ่าวไทย และปะการังสีสันสดใส สวยงาม หลากหลายสายพันธุ์ เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียเลยทีเดียว ซึ่งคุณสามารถชมความงามของโลกใต้ท้องทะเลผ่านมิติใหม่ โดยการเดินลอดอุโมงค์แก้วขนาดใหญ่ที่เผยให้เห็นปลาประเภทต่างๆ ที่ว่ายอยู่รอบๆ ตัวเราได้ถึง 180 องศาเลยทีเดียว อีกทั้งอุโมงค์ยังมีความยาวถึง 105 เมตร ทำให้คุณสามารถสัมผัสกับเหล่าสัตว์ทะเลได้อย่างใกล้ชิดแบบสุดๆ เลย พร้อมตู้ปลาที่รวบรวมปลาทะเลน้อยใหญ่ หลากหลายสีสัน ไว้ให้คุณได้ชมอีกด้วย
หลังจากเที่ยวมาเกือบทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลาพักขา นอนพักสักตื่นกับรีสอร์ทที่อยู่ติดหาดพัทยา ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวไปตะลุยเมืองพัทยาในช่วงกลางคืนด้วยการชวนกันไปดูสาวๆ (เอ๊ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดไปไกลกว่านั้น) สาวๆ ในที่นี้เป็นสาวประเภทสองที่สวยขนาดว่าผู้หญิงจริงๆ ยังอายเลย ซึ่งจะเป็นไปที่ไหนไม่ได้นอกจาก "อัลคาซ่า คาบาร์เร่ต์" อีกหนึ่่งสีสันแห่งเมืองพัทยา ที่เปิดแสดงโชว์มายาวนาน และเป็นที่กล่าวขานของผู้ชมทั่วโลก โรงละครอัลคาซ่าร์สามารถต้อนรับผู้ชมได้ถึง 1,000 คน และคับคั่งไปด้วยนักแสดงมืออาชีพ มาพร้อมโชว์ชุดใหญ่ ด้วยการแสดงศิลปะแบบนานาชาติทั้ง 18 ชุด แสง สี เสียง สุดอลังการนานกว่า 1 ชั่วโมง นอกจากนั้นคุณยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความงามของสาวไม่จริงหญิืงไม่แท้ ที่บางคนดูแล้วสวยกว่าผู้หญิงแท้ๆ ซะอีก อยากเห็นว่าพวกเธอสวยแค่ไหน ลองมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อัลคาซ่าโชว์ แล้วคุณจะบอกว่าอเมชิ่งจริงๆ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ก่อนจะขับรถเช่ากลับกรุงเทพฯ ในตอนเช้า ผมกับเพื่อนเลยชวนกันขึ้นไปชมวิวดูทิวทัศน์พัทยาให้เต็มตาเสียก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่ามาเที่ยวพัทยาแบบไม่ครบถ้วน 360 องศา จุดชมวิว เขาพระตำหนักหรือเขาพระบาท ภูเขาที่คั่นระหว่างหาดพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน บนยอดจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาท และอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์อาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ยของชาวเรือ และเป็นจุดชมวิวที่สวยแห่งหนึ่งอีกด้วย และไหนๆ ก็มีวัดอยู่ข้างบนอยู่แล้ว ผมเลยชวนเพื่อนไว้พระเป็นสิริมงคล ถึงแม้ว่าบริเวณวัดจะไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ก็มีความสงบมาก พอไว้พระเสร็จ ก็มาสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์อาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณชมวิวพอดี ที่นี่สามารถเห็นทัศนียภาพโค้งอ่าวความยาวกว่า 3 กิโลเมตรและเมืองพัทยาในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้ามาตอนกลางคืนก็จะได้อารมณ์สวยอีกแบบหนึ่ง ซึ่งที่นี่เขาเปิดให้เที่ยวชมตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงสี่ทุ่มเท่านั้น
ขากลับเราแวะซื้อของฝากกันที่ ตลาดหนองมน แต่กว่าจะหาที่จอดรถได้ก็นานเหมือนกัน เพราะวันที่ไปเป็นวันหยุด นักท่องเที่ยวมาแวะซื้อของฝากกลับบ้านกันเพียบ ตลาดหนองมนขายขนมและของกินเยอะแยะ แตที่ดูเหมือนจะฮอตฮิตที่สุดก็คือข้าวหลามและขนมจาก เพราะเห็นหลายๆ ซื้อไปกันคนละหลายกระบอก ข้าวหลามมีทั้งแบบข้าวเหนียวดำและข้าวเหนียวขาว อร่อยทั้งสองแบบ นอกจากนี้ยังมีหมึกกรอบแบบหวานและเผ็ด ซื้อมากินบนรถระหว่างทางกลับบ้านอร่อยเพลินทีเดียว 

ที่มา sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น