เที่ยวพัทยาที่สวนเสือศรีราชา
ตั้งขึ้นบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2540 ณ กิโลเมตรที่ 9 เลขที่ 341 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งห่างจากสวนสัตว์เดิมเพียง 1 กิโลเมตร โดยจัดการดำเนินงาน และเตรียมแผนงานอย่างมีมาตรฐาน เพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวทุกคน
ซึ่งในปัจจุบันเสือโคร่งพันธุ์เบงกอล และจระเข้ที่เพาะเลี้ยงโดยสวนเสือศรีราชานั้นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น มากมาย ซึ่งมีเสือโคร่งพันธุ์เบงกอล 200 กว่าตัว และจระเข้มีถึง 100,000 กว่าตัว นอกเหนือสัตว์นานาชนิด แล้วสวนเสือศรีราชายังได้มีกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ไว้มากมาย
จุดประสงค์ในการจัดตั้งสวนเสือศรีราชา
1. เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ให้อยู่ต่อไปเพื่ออนุชนรุ่น หลัง เช่น เสือ และสัตว์ป่าบางชนิด
2. เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในสังคมรู้จักการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเยาวชนให้มีความรักสัตว์ป่า และได้ร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างสรรค์สังคม
3. เพื่อเพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์สัตว์ป่าบางชนิดที่ได้รับการระบุจากที่ประชุมอนุสัญญานานาชาติ ที่ว่าด้วยการค้าซึ่งสัตว์ป่า และพืชพรรณ หรือไซเตส (CITES) ว่าเป็นสัตว์ที่กำหนดให้อยู่ในบัญชีสัตว์สามารถส่งออกได้ หรือหมายถึงแปรสภาพจากสัตว์ป่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
4. เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ของรัฐบาล เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต และการศึกษาของประชาชน
การ แสดง
1. โชว์ละครสัตว์ “อะเมซิ่งเซอคัส” เป็นการแสดงความสามารถของสัตว์ ประกอบด้วยการแสดงของเสือโคร่ง หมี ลิงชิมแพนซี โจ๊กเกอร์โชว์ ชมความสามารถของเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลที่มาโชว์ความสามารถลอดบ่วงไฟ เดินบนสะพานเชือก ทำตามคำสั่งของครูฝึก และอีกหลายความสามารถ โชว์แสดงในโรงละครสัตว์ที่สามารถบรรจุนักท่องเที่ยวได้กว่า 1,500 คน
2. โชว์จระเข้ โชว์ความสามารถของผู้หญิงสาวสวย(ไกรทองหญิง) ที่จะมาท้าทาย และจับจระเข้ด้วยมือเปล่า กับโชว์ความสามารถที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย พบโชว์แสดงวันละหลายรอบ
3. โชว์ช้าง โชว์ความสามารถของฝูงช้าง และ ลูกช้างแสนรู้ ที่จะมาแสดงความน่ารัก ความสามารถต่าง ๆ ที่ชมแล้วจะต้องประทับใจ
อุโมงค์เสือโคร่ง อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณส่วนของสถานที่พักผ่อน เป็นศาลาหกเหลี่ยม นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสวนสาธารณะลดหลั่นเป็นชั้นไปจนถึงลำธาร และมีทางเดินลงไปยังสะพานข้ามลำธาร เมื่อเดินผ่านศาลาหกเหลี่ยมไปแล้ว จะพบกับอุโมงค์เสือโคร่ง และบ่อเสือโคร่งเบงกอล ที่มีเสือจำนวนกว่า 100 ตัว ที่ปล่อยอย่างอิสระ ภายในอุโมงค์เสือโคร่งจะมีทางเดิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส และเห็นเสือโคร่งเบงกอล ที่ถูกปล่อยอย่างอิสระภายในบ่อเลี้ยงได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ผ่านทางกระจกที่ติดกั้นป้องกันไว้
อาคารวิชาการจระเข้ แบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ ได้ดังนี้
ห้องวิชาการจระเข้ : ซึ่งจัดแสดงประวัติความรู้เกี่ยวกับจระเข้ และแสดงการเพาะพันธุ์ตามธรรมชาติของจระเข้
ห้องฟักไข่จระเข้ : ห้องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนแรก ซ้ายมือนักท่องเที่ยวจะพบกับภาพจำลองการฟักไข่ในห้องฟักไข่
ส่วนที่สอง ขวามือ นักท่องเที่ยวจะพบห้องฟักไข่จระเข้ ควบคุมด้วยอุณหภูมิสมจริง ซึ่งเต็มไปด้วยไอน้ำ ในฤดูวางไข่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ห้องนี้จะเต็มไปด้วยไข่จระเข้ที่เข้ามาฟัก พอครบกำหนดการฟัก จะนำออกสู่ห้องแกะไข่จระเข้อีกต่อหนึ่ง
ห้องแกะไข่จระเข้ ภายในห้องนี้แบ่งออกเป็น 3 มุม
1. มุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ ได้จากจระเข้ เช่น ยาสมุนไพรที่ได้จากจระเข้ เนื้อจระเข้อบแห้ง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ
2. เทศกาลแกะไข่จระเข้ ในฤดูกาลกำเนิดของจระเข้ในช่วงเดือนพฤษภาคม ไปถึงกลางเดือนสิงหาคม ในส่วนนี้จะให้บริการบันทึกภาพวีดีทัศน์ในส่วนของความประทับใจนี้ให้กลับไป ชมที่บ้านอีกด้วย
3. มุมถ่ายรูปกับจระเข้ ในมุมนี้ นักท่องเที่ยวสามารถอุ้มจระเข้อายุประมาณ 2 ปี เพื่อถ่ายรูปด้วยกัน
บ่อ จระเข้ขนาดใหญ่ ที่มีจระเข้มากมายในสถานที่ ที่จัดไว้ให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถจะร่วมสนุกสร้างความรู้สึกตื่นเต้นกับการให้อาหารจระเข้ ด้วยตัวท่านเอง
ครอบครัวตัวอย่าง นักท่องเที่ยวจะพบความน่ารัก น่าเอ็นดูของบรรดาสัตว์ อาทิเช่น เสือ หมู หมา และ เป็ด กับจระเข้ ที่สามารถนำมาเลี้ยงดูแลอยู่ร่วมกันด้วยความรู้สึกแห่งการอบอุ่นอย่างไม่คาด คิด
นางพญาแมงป่อง ภายในเป็นถ้ำมืด เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาชมจะพบว่ามีบ่อแมงป่องขนาดใหญ่บรรจุแมงป่องนับพัน ตัว ที่แปลกไปกว่านั้นจะพบว่าแมงป่องทุกตัวเรืองแสง พร้อมกันนี้ยังมีสาวน้อยแสนสวย เป็นนางพญาแมงป่อง ซึ่งบนร่างกายจะมีแมงป่องนับร้อยตัวเกาะอยู่อูฐ กับนกกระจอกเทศ ในส่วนนี้นอกจากม้า และอูฐแล้ว ยังเป็นส่วนที่มีสัตว์อื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชม และสัมผัสอย่างใกล้ชิด และถ่ายรูปที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ขี่นกกระจอกเทศ ขี่ม้าแคระ ถ่ายรูปชะนี จิงโจ้แคระ และยังมีสัตว์อีกมากมาย อาทิ กระต่าย เม่น อีกัวน่า นกยูง งูหลาม กวางดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบลานนกกระจอกเทศวิ่งแข่ง และยังสามารถร่วมกิจกรรมด้วยการขี่หลังนกกระจอกเทศ เพื่อทำการวิ่งแข่ง สร้างความสนุกสนานได้อีกด้วย
สนาม แข่งหมู เมื่อนักท่องเที่ยวออกจากถ้ำแมงป่องจะพบกับลานวิ่งแข่งหมู สร้างความสนุกสนานหรรษา นอกจากนี้ยังได้พบความสามารถทักษะของหมู ในด้านการคำนวณ บวก ลบ คูณ หาร และสามารถฟังเสียงได้ ถึง 5 ภาษา |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น